ยานเวเนร่า 7 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเวเนร่า ของสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นการส่งยานอวกาศขนาดเล็กไปยังดาวศุกร์ ยานเวเนร่า 7 ออกเดินทางจากโลกเมื่อ 17 สิงหาคม 2513 และในวันที่ 15 ธันวาคม ปีเดียวกัน มันก็กลายเป็นยานอวกาศลำแรกของโลกที่ลงจอดบนดาวเคราะห์ดวงอื่น และเป็นยานอวกาศลำแรกที่ส่งข้อมูลจากที่นั่น กลับมายังโลก
ตัวยานแลนเดอร์ ถูกออกแบบมาให้มีความทนทานอย่างมาก โดยมันสามารถทนต่อแรงกดดันของอากาศขนาดถึง 180 บาร์ หรือ 2,610 psi และทนต่ออุณหภูมิความร้อนสูงถึง 580 องศาเซลเซียสได้ ซึ่งความสามารถเหล่านี้ของมัน สูงเกินกว่าสภาพความเป็นจริงบนดาวศุกร์มากนัก ทั้งนี้ก็เพราะนักวิทยาศาสตร์โซเวียตไม่มั่นใจถึงสภาพบนพื้นผิวของดาว จึงออกแบบยานแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดให้มาก ๆ เข้าไว้ก่อน แต่เรื่องนี้ก็มีผลเสียคือทำให้ยานไม่สามารถนำอุปกรณ์การสำรวจและเก็บข้อมูลไปได้มากนัก
ยานเวเนร่า 7 เข้าสู่วงโคจรของดาวศุกร์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2513 ก่อนที่มันจะปล่อยยานแลนเดอร์ลงมา ร่มชูชีพของยานแลนเดอร์กางที่ระดับความสูง 60 กิโลเมตรเหนือพื้นผิวดาว ขณะที่อุปกรณ์ทางวิยาศาสตร์ของยานก็ทำงานทันทีในขณะที่มันดิ่งลงมาเพื่อลงจอด แต่ระหว่างที่กำลังจะถึงพื้น ร่มชูชีพเกิดทำงานขัดข้อง ทำให้ยานดิ่งลงด้วยความเร็งสูงกว่าที่วางแผน ก่อนที่ร่มชูชีพจะไม่ทำงานเลย ทำให้ยานตกลงมาอย่างอิสระ และถึงพื้นผิวดาวด้วยความเร็ว 37 ไมล์ต่อชั่วโมง
จากการตกกระแทกอย่างแรง ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ยานเงียบไป แต่การบันทึกเสียงยานก็ยังคงดำเนินต่อไป และ 2-3 สัปดาห์หลังจากนั้น จากการพิจารณาเทปบันทึกเสียงอย่างละเอียดโดยนักดาราศาสตร์ พบว่ายานยังคงทำงานอยู่ คาดกันว่าตอนที่ตกลงสู่พื้น ยานคงจะไม่ตั้งขึ้น เสาอากาศของยาน จึงไม่ได้เล็งมาอย่างถูกต้อง ทำให้มีการส่งสัญญานที่ไม่แรงพอ
รวมแล้ว ยานส่งสัญญานกลับมายังโลก 53 นาที ซึ่งราว 20 นาที ส่งมาตอนที่มันอยู่บนพื้นผิวดาว
เวเนร่า 7 ให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับพื้นผิวของดาว เนื่องจากสภาพที่หนาทึบของชั้นบรรยากาศทำให้เรามองไม่เห็นมันจากบนโลก ยานระบุว่าสภาพอุณหภูมิบนดาวอยู่ที่ 475 องศาเซลเซียส 20 องศาเซลเซียสความกดดันอากาศอยู่ที่ 1,300 psi ยานยืนยันว่ามนุษย์ไม่สามาารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวดาวได้ รวมถึงบนดาวไม่น่าจะมีน้ำในสภาพของเหลวด้วย
เรื่องโดย ไกรลักษณ์ งามโสภา | ภาพโดย Nation TV
August 17, 2020 at 07:56AM
https://ift.tt/3iFMONA
17 ส.ค. 2513 เวเนร่า 7 เดินทางไปดาวศุกร์ - NationTV
https://ift.tt/2YfjZyP
No comments:
Post a Comment