ในขณะที่ แฟบไฟว์ (FABFIVE) หรือ 5 สาวมหัศจรรย์ในอนาคตที่คัดเลือกโดย สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่พูดได้ยากว่าพวกเธอจะมีผลต่อวงการวอลเลย์บอลไทยขนาดไหน แต่เหล่าดาวรุ่งนักตบสาวไทยก็หวังว่าพวกเธอจะประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนามตามรอยเหล่ารุ่นพี่
ข่าวแนะนำ
สาวจากเมืองร้อยเอ็ด เริ่มต้นหัดเล่นกีฬาวอลเลย์บอลตั้งแต่อายุ 11 ปี เธอมักถูกอาจารย์วิชาพละ ให้มาสาธิตการเล่นวอลเลย์บอลหน้าชั้นเรียนอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุเพราะเธอเป็นเด็กนักเรียนผู้หญิงที่มีส่วนสูงมากที่สุดในชั้นเรียน แรกเริ่มเดิมที “แนน” เล่นวอลเลย์บอลเพียงเพราะความสนุกสนานกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอเท่านั้น ก่อนที่เธอจะได้รับโอกาสที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง หลังจากได้รับคำชวนจากโค้ชทีม ขอนแก่น ให้มาร่วมทีม โดยมองว่าเธอมีส่วนสูงที่มากและมีแววที่จะอนาคตไกล
“ฉันชอบที่จะเล่นวอลเลย์บอลมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มเรียนรู้ตอนอายุ 11 ปี ทีแรกเล่นเพื่อความสนุก แต่พอช่วง ม.5 สมัยที่เรียนอยู่โรงเรียนหนองเรือวิทยา จังหวัดขอนแก่น ฉันก็เริ่มจริงจังกับมันมากขึ้น”
“ฉันคิดว่าโค้ชเยาวชนของฉันควรได้รับความเคารพสำหรับความอดทนและใจเย็นกับฉันและเพื่อนร่วมทีมที่ผ่านมา ฉันอยากจะขอบคุณที่พวกเขาคอยพร่ำสอนและคอยสนับสนุนตัวฉันมาเสมอ แต่ที่สำคัญที่สุดคือฉันอยากจะขอบคุณครอบครัวของฉันอย่างมากที่คอยอยู่เคียงข้างและช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันมาโดยตลอด”
ในช่วงเดือนแรกของเธอที่ขอนแก่น ทัดดาว ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการปรับตัว เธอจะร้องไห้แทบทุกวันเพราะคิดถึงบ้านและครอบครัว ในที่สุดเธอก็คุ้นเคยกับกิจวัตรประจำวันในขณะที่พัฒนาทักษะจากการฝึกซ้อมอย่างหนัก
ด้วยส่วนสูงถึง 185 เซนติเมตรของเธอ พร้อมกับทักษะที่โดดเด่น ทำให้โค้ชทีมชาติชุดเยาวชนจับตามองเธอ ก่อนที่ฟอร์มการเล่นของเธอจะเข้าไปเตะตาโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ได้
“ตอนนั้นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉันคนนึงมีชื่อติดทีมชาติชุดเยาวชน ฉันเองก็อยากเล่นให้ทีมชาติเหมือนกัน แต่นั่นมันก็ตรงกับช่วงที่ฉันเพิ่งเริ่มเล่นอย่างจริงจัง ดังนั้นฉันจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองให้มากขึ้น จนในที่สุดฉันก็ได้รับโอกาสในการมีชื่อติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี”
“หลังจากนั้นสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยและโค้ชได้เปิดโอกาสให้ฉันได้ฝึกซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่ และในที่สุดฉันก็มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่เรื่อยมา”
มันเป็นประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายที่เธอได้เล่นเคียงข้างฮีโร่วอลเลย์บอลของเธออย่าง "ปลื้มจิตร์ ถินขาว"
“ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติชุดใหญ่ แต่ก็รู้สึกประหม่าไม่น้อยตอนได้เล่นในนามทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ วอลเลย์บอล เวิล์ด กรังปรีซ์ 2013 ณ ประเทศญี่ปุ่น บรรยากาศเป็นไปอย่างมีมนตร์ขลัง ฉันจำได้อย่างชัดเจนตอนที่โฆษกสนามเรียกชื่อฉันเป็นครั้งแรก วินาทีนั้นหัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น”
“ตัวฉันเองยังมีอะไรอีกหลายอย่างให้เรียนรู้และพัฒนา แต่ฉันอยากขอบคุณโค้ชและเพื่อนร่วมทีมที่ให้การสนับสนุน โดยเฉพาะ ปลื้มจิตร์ ที่สอนหลายอย่างมาก เนื่องจากเราเล่นตำแหน่งเดียวกัน เธอช่วยฉันเรื่องจังหวะเวลาและแม้กระทั่งวิธีสะบัดข้อมือ การเรียนรู้จากไอดอลตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อนร่วมทีมเกือบทุกคนก็มีส่วนในการช่วยเหลือฉันเช่นกัน วิลาวัณย์ เป็นกัปตันที่ดีมาก และโค้ชอ๊อด เกียรติพงษ์ ก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยม มันเยี่ยมมากที่ได้อยู่ในทีมนี้”
ด้วยประสบการณ์ที่เธอได้รับจากผู้เล่นรุ่นพี่จากทีมชาติชุดดรีมทีม และเพื่อนร่วมทีมที่ญี่ปุ่น ทัดดาว ปรารถนาที่จะตอบแทนสิ่งนั้นด้วยการต่อยอดความสำเร็จของพวกเขา
“ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ทีมชาติไทยเข้าถึงทุกการแข่งขันระดับนานาชาติ และเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของโลก ฉันต้องการเล่นในระดับแนวหน้าและแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฉันหวังว่าฉันจะสามารถนำประเทศไทยไปสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและเดินหน้าคว้าชัยชนะให้กับประเทศอย่างต่อเนื่อง”
ณ เวลานี้ ทัดดาว ประสบความสำเร็จอย่างมากกับทีมชาติไทยและยังทำตามความฝันที่จะเล่นในสโมสรต่างประเทศ ตอนนี้เธอเล่นให้กับสโมสรญี่ปุ่น เจที มาร์เวลลัส ร่วมกับ แอนนี่ ดรูว์ นักวอลเลย์บอลซุปเปอร์สตาร์ของสหรัฐอเมริกา
ทัดดาว มีอายุครบ 27 ปี เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่นอกเหนือจากคำอวยพรวันเกิดมากมายจากแฟนๆ ของเธอแล้ว เธอยังได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เมื่อต้นสังกัดของเธอสามรถคว้าแชมป์วี-ลีก ญี่ปุ่น ด้วยการชนะ โทเรย์ แอร์โรวส์ 3-1 เซต
“การได้เล่นในลีกต่างแดนถือเป็นความฝันอย่างหนึ่งของฉันและฉันก็ประสบความสำเร็จมาแล้วด้วยการเล่นให้กับ เจที มาร์เวลลัส ในญี่ปุ่น”
เธอได้เรียนรู้มากมายจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ร่วมไปกับการเดินทางในนามทีมชาติ และการใช้ชีวิตในต่างประเทศกับทีมสโมสร
“ฉันได้เรียนรู้ที่จะอดทนและตั้งใจจริง แต่ฉันคิดว่าฉันยังต้องปรับปรุงทักษะบางอย่างเช่นการรับและการเสิร์ฟ”
“คุณต้องเป็นคนช่างสังเกตอยู่ตลอดเวลา และคุณต้องเรียนรู้จากผู้เล่นคนอื่น เพื่อที่จะได้สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง คุณต้องฝึกฝนทุกวันและทำมากขึ้นหลังการฝึกซ้อม โดยเฉพาะทักษะที่คุณยังไม่เชี่ยวชาญ สิ่งสุดท้ายคือ การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักกีฬา การรับประทานอาหารที่ดีและการพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ”
ที่มา : https://ift.tt/3kEHv35
March 01, 2021 at 10:49AM
https://ift.tt/3dSW6qb
ทัดดาว : ฉันหวังว่าจะสามารถนำประเทศไทยไปสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2YfjZyP
No comments:
Post a Comment