‘หลวงพ่อดาวดิน’ ไม่หวั่นแม้ถูกฟ้อง 2 คดีรวด ยันเคลื่อนไหวไม่ผิดธรรมวินัย ครอง ‘ผ้าเทา’ ไม่ใช่ต้องห้ามตามพุทธบัญญัติ
สืบเนื่องจากกรณีที่ หลวงพ่อดาวดิน หรือสมณะดาวดิน หรือนายดาวดิน ชาวหินฟ้า ถูกฟ้องร้องในฐานความผิด “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นพระภิกษุ สามเณร โดยมิชอบ” ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 จากการอดอาหารประท้วงให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังแกนนำราษฎรเป็นวันที่ 9 ซึ่งศาลแขวงพระนครเหนือได้รับฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1257/2564
โดยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า หลวงพ่อดาวดินยังคงห่มผ้าเทาเดินทางไปฟังคำฟ้องในคดีดังกล่าว ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 1 ซึ่งหลวงพ่อดาวดินได้ยื่นคำให้การปฏิเสธเป็นหนังสือ และศาลให้ประกันโดยใช้ทรัพย์ประเมินในชั้นฝากขัง ก่อนกำหนดวันนัดคุ้มครองสิทธิและสอบคำให้การในวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังหลวงพ่อดาวดิน ซึ่งกล่าวว่า มีความมั่นใจกับทนายที่ดูแลคดีอยู่ และคิดว่าเมื่อโดนคดีมาแล้วก็จะไม่ท้อถอย เพราะเชื่อว่ายังมีแกนนำอีกบางส่วนที่ยังอยู่ในเรือนจำ ใครที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลก็ต้องโดนคดีอยู่แล้ว มากน้อยแตกต่างออกไป จึงทำใจยอมรับได้ และน่าจะเป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดที่ทดสอบจิตใจของเรา
ส่วนแนวทางการสู้คดีไม่ได้มีความรู้ต่อในคดีแรกที่หมู่บ้านทะลุฟ้า แต่ในคดีการแต่งกายเลียนแบพระภิกษุนั้น แต่งมากว่า 20 ปีแล้ว และยังมีพระรูปอื่นที่เป็นนักบวชสันติอโศก ที่แต่งกายแบบนี้อยู่เกือบร้อยรูป แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แสดงว่าปัญหามันอยู่กับคนที่มาฟ้องร้อง
“อาตมายืนยันว่ามันคือวิถีชีวิตของเรา เราไม่ได้แต่งกายเลียนแบบโดยมิชอบ แต่เราทำตามพระธรรมวินัยที่เราศรัทธาและยึดถือ ไม่ได้เป็นการปฏิบัติโดยมิชอบ ส่วนในกรณีที่ถูกเปลี่ยนผ้าจีวรหลังรายงานตัวที่ สน.นางเลิ้ง นั้น ตอนนี้ได้ห่มผ้าสีเทาเพราะผ้าสีขาวเลอะง่าย จึงได้พูดคุยกับญาติโยมและพระสงฆ์รูปอื่นๆ ที่โดนคดีด้วยเช่นกัน และตกลงว่าจะใส่สีนี้กันไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อคดีอีก โดยสีเทานั้นไม่ใช่สีต้องห้ามตามพุทธบัญญัติ เพราะสีที่ห้าม ได้แก่ สีแดงล้วน สีแสดล้วน สีเหลืองล้วน สีครามล้วน สีบานเย็นล้วน สีดำล้วน และสีชมพูล้วน” หลวงพ่อดาวดินกล่าว
หลวงพ่อดาวดินยังได้บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ในวันที่เข้าไปรายงานตัวที่ สน.นางเลิ้ง ในคดีแต่งกายเลียนแบบ พบเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าฟ้องร้องดำเนินคดีจึงเกิดข้อสงสัยที่ว่า นักบวชสันติอโศกก็แต่งกายเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมถึงไม่เคยเห็น
“ประเด็นพระพุทธศาสนากับการออกมาเรียกร้องทางการเมืองว่าทั้งสองส่วนนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างตรงไปตรงมา เพราะตามกฎหมายคนที่จะบวชต้องได้รับการแต่งตั้งจากมหาเถรสมาคม ซึ่งโดยพระธรรมวินัยไม่ได้กำหนดว่า กุลบุตรคนใดจะเข้าบวชต้องได้รับการยินยอมจากมหาเถรสมาคม แค่นี้ก็เป็นอิทธิพลของรัฐโดยตรงแล้ว และหากย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เราก็จะเห็นพระภิกษุที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เช่น พระพุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย ซึ่งนี่ก็คือความเกี่ยวพันระหว่างบุคลากรทางศาสนากับการเมืองอย่างชัดเจน
เรากระทำภายในขอบเขตพระธรรมวินัย เราไม่ได้ใช้ความรุนแรง เราเพียงแค่ออกมาสื่อสารโดยสงบและปราศจากอาวุธ และมันเป็นสิ่งที่พระภิกษุควรใช้วิจารณญานของตัวเองที่จะออกมาแสดงบทบาทให้เหมาะสมกับสถานภาพที่เป็นอยู่” หลวงพ่อดาวดินกล่าว
May 25, 2021 at 04:03PM
https://ift.tt/3vmI462
หลวงพ่อดาวดิน ไม่หวั่นถูกฟ้อง 2 คดี ชี้เคลื่อนไหวไม่ผิดธรรมวินัย ครองผ้าเทาไม่ต้องห้ามพุทธบัญญัติ - มติชน
https://ift.tt/2YfjZyP
No comments:
Post a Comment