27 มี.ค. กลายเป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ในวันดังกล่าว ซึ่งตรงกับวันกองทัพเมียนมา มีประชาชนที่ออกมาประท้วงต้านรัฐประหารถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสังหารกว่า 100 คนในวันเดียว ทำให้นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงในเมียนมาแล้วอย่างน้อย 450 คน
ชาวเมียนมาเรียกผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากการลุกฮือขึ้นต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพเหล่านี้ว่า "ดาวที่ดับแสง"
หนึ่งในนั้นคือ เอ โก วัย 40 ปี
เอ โก เป็นพ่อลูกสี่ที่อาศัยอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ ชาวบ้านเล่าว่าเขามีอาชีพขายลอดช่องและขนมที่ทำจากมะพร้าว นอกจากนี้เขายังเป็นสมาชิกกลุ่มสอดส่องความปลอดภัยของชุมชนด้วย
รายงานหลายชิ้นระบุว่าชายผู้นี้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บตอนที่ทหารบุกเข้าไปในชุมชนของเขา จากนั้นทหารได้ลากตัวเขาไปไว้บนกองยางรถยนต์ที่ถูกจุดไฟเผา ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงนำมาใช้ทำแนวกั้นทหารและตำรวจ
ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าให้เว็บไซต์ข่าว "เมียนมานาว" (Myanmar Now) ฟังว่า "เขาส่งเสียงร้องว่า 'แม่ช่วยผมด้วย'"
ครอบครัวและเพื่อนฝูงได้จัดงานรำลึกถึงเขาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ญาติคนหนึ่งบอกว่าการตายของ เอ โก เป็น "การสูญเสียครั้งใหญ่"
"เขาเป็นเสาหลักที่หาเลี้ยงครอบครัว" ญาติของเขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี
อีกด้านของเมืองมัณฑะเลย์ ก็มีผู้คนที่เศร้าโศกกับการจากไปของ อ่อง ซิน เพียว วัย 18 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชายหนุ่มคนนี้เป็นผู้รักษาประตูของสโมสรฟุตซอลลินลัต อีกทั้งยังเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่ศูนย์รักษาผู้ป่วยอาการวิกฤตในช่วงที่โควิด-19 ระบาดในเมียนมา
ครอบครัวของอ่อง ซิน เพียว ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เขาอยู่ในแนวหน้าของกลุ่มผู้ประท้วง ตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยิงเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.
"ฉันเหลือเขาอยู่เพียงคนเดียว...ให้ฉันตายไปเสียเถิด ฉันจะได้ไปอยู่กับลูกชายฉัน" แม่ของเขาร้องคร่ำครวญอยู่ข้างโลงศพลูก
ในวันนั้นยังมีเด็กเสียชีวิตด้วยหลายคน
ร่างไร้วิญญาณของ เด็กหญิงเอ เมียต ตู วัย 11 ปี ถูกนำใส่โลงศพพร้อมกับของเล่น ดอกไม้ และภาพวาดเฮลโลคิตตี้ สื่อท้องถิ่นระบุว่าเธอถูกยิงระหว่างการสลายการชุมนุมในเมืองเมาะลำเลิง หรือ มะละแหม่ง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
ส่วนในเมืองเมะทีลา ทางภาคกลางของเมียนมา แม่ของเด็กหญิงปัน อิ พยู เล่าให้บีบีซีแผนกภาษาเมียนมาฟังว่าเธอรีบวิ่งไปปิดประตูทุกบานตอนที่ได้ยินเสียงทหารกำลังเดินมาตามถนน แต่เธอยังไวไม่พอ
"ฉันเห็นลูกล้ม และตอนแรกคิดว่าลูกแค่ลื่นล้ม แต่จากนั้นก็มีเลือดไหลออกมาจากอกของลูก" เธอเล่า
ในนครย่างกุ้งเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ มีรายงานหลายชิ้นระบุว่า เด็กชายไซ ไว ยาน วัย 13 ปีกำลังเล่นอยู่ข้างนอกตอนที่เขาถูกยิงเสียชีวิต ในวันอาทิตย์ครอบครัวจัดงานศพของเขาด้วยความเศร้าโศก
"ฉันจะอยู่ต่อไปโดยไม่มีลูกชายของฉันได้อย่างไร" แม่ของเขาร่ำไห้อยู่ข้างโลงศพ
อีกด้านของนครย่างกุ้ง นายที ซาน วาน พี วัย 19 ปี เสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าที่แก้ม ตอนที่เขาอยู่บริเวณแนวตั้งรับของกลุ่มผู้ประท้วง
เพื่อนบ้านเล่าให้รอยเตอร์ฟังว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่พ่อแม่ของเขาบอกเพื่อนฝูงของลูกชายว่าไม่ต้องร้องไห้ "ลูกชายของเราเป็นผู้พลีชีพ"
แม้จะเผชิญเสียงประณามจากทั่วโลก แต่ความรุนแรงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในวันที่ 28 มี.ค.
มีรายงานว่า มา อา คู นักกิจกรรมเพื่อสิทธิสตรีวัย 37 ปี ถูกยิงเข้าที่หน้าอกจนเสียชีวิตที่เมืองคะแล ทางภาคตะวันตกของประเทศ
สันนิบาตสตรีแห่งพม่า บรรยายว่าเธอเป็น "ผู้หญิงที่มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและความต้องการช่วยเหลือผู้อื่น"
"เราขอสดุดีในความกล้าหาญ ความยึดมั่น และอุดมการณ์ของเธอ"
March 30, 2021 at 09:06AM
https://ift.tt/3wcyO5y
รัฐประหารเมียนมา : "ดาวดับแสง" ในวันที่เลือดไหลนองมากที่สุดของประเทศ - บีบีซีไทย
https://ift.tt/2YfjZyP
No comments:
Post a Comment